การก้าวไปข้างหน้าไม่ใช้เรื่องง่าย และสำหรับคิมเบอร์ลี รัช สิ่งที่แตกต่างคือบัตรเดบิตสำหรับค่าน้ำมัน
ตอนนั้นเธอต้องหยุดงานที่ทำมานานกว่า 20 ปีในร้านอาหารและแผนกบริการอาหาร ซึ่งตำแหน่งต่างๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเมื่อเธอต้องกักตัวในระหว่างการระบาดใหญ่เนื่องจากต้องเข้ารับการรักษาโรคลูคีเมีย เธอไม่ได้รับค่าจ้างในวันที่ลาและไม่สามารถใช้วันลาป่วยได้
"ฉันทำงานทุกวันเสาร์-อาทิตย์และทุกวันหยุดเทศกาลที่มี" เธอกล่าว
นั่นทำให้เธอหาเวลามาพบแพทย์เพื่อรักษามะเร็งได้ยาก เธอต้องใช้เวลาขับรถ 45 นาทีจากที่พักเพื่อมาทำงานที่ร้านขายอาหาร Safeway และเข้าอบรมในหลักสูตรการเดินสายเคเบิลที่วิทยาลัยชุมชนเมซาในเมืองฟีนิกซ์
ต้นทุนของการสร้างความเปลี่ยนแปลงผ่านการฝึกอบรมแรงงานช่างมีราคาสูง ซึ่งไม่ใช่แค่เงินเท่านั้น คืนหนึ่ง เธอต้องนอนในรถเพื่อให้เหมาะกับการเดินทางไปพบแพทย์ ทำงาน และเรียน เธอวางถุงน้ำแข็งไว้ในหมอนรองคอเพื่อช่วยบรรเทาความร้อนจากทะเลทราย
"ฉันรู้สึกว่าตัวเองหมดสิ้นแล้วทุกอย่าง ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และความรู้สึก" คิมเบอร์ลีกล่าว
แต่ละก้าวช่างยากลำบาก แต่เธอก็ได้รับความช่วยเหลือให้เดินต่อไปข้างหน้าได้เนื่องจากเธอเข้าร่วมการฝึกอบรมที่จัดขึ้นโดยมูลนิธิเพื่อสตรีผู้เริ่มต้นใหม่ (Fresh Start Women’s Foundation) ซึ่งได้รับทุนจากกระทรวงแรงงานในโครงการฝึกงานและอาชีพที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิม (Apprenticeship and Nontraditional Occupations หรือ WANTO) เพื่อสตรี
สิทธิประโยชน์เหล่านั้นครอบคลุมถึงงานมหกรรมจัดหางานเพื่อให้เธอสามารถพบปะกับนายจ้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ การช่วยเตรียมพร้อมเข้ารับการสัมภาษณ์เพื่อให้เธอรู้สึกมั่นใจในการพูดคุยกับบริษัทต่างๆ เช่น Pacific Scientific (ซึ่งได้รับเธอเข้าทำงานและเพิ่งเลื่อนตำแหน่งให้) และบัตรเดบิตเพื่อให้เธอมีเงินใช้จ่ายสำหรับการเดินทางไกล
"แค่มีบัตรสำหรับจ่ายค่าน้ำมันและของชำ ก็ช่วยคุณบรรเทาความลำบากในชีวิตได้" รัชกล่าว "ตอนนี้ ฉันไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายพวกนั้นแล้ว"
นับตั้งแต่รัฐบาลไบเดน-แฮร์ริสเริ่มบริหารงาน กระทรวงแรงงานได้ดำเนินโครงการมอบเงินช่วยเหลืออีกครั้งเพื่อช่วยเหลือแรงงานให้สามารถก้าวไปข้างหน้าสู่งานที่ดี เช่นเดียวกับโครงการ WANTO ที่ช่วยเหลือคิมเบอร์ลี
เราใช้เงินเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในด้านโอกาส (Opportunity Infrastructure) ซึ่งเป็นระบบที่เชื่อมต่อถึงกันเพื่อช่วยให้แรงงานทุกคนเข้าถึงงานที่ดี และเราใช้หลักการเพื่องานที่ดี (Good Jobs Principles) ของเราเพื่อให้แน่ใจว่าโครงการที่ได้รับเงินทุนจากกระทรวงแรงงานจะนำพาแรงงานไปสู่งานที่มีค่าจ้างเป็นธรรม มีสถานที่ทำงานปลอดภัย และสวัสดิการที่เปลี่ยนแปลงชีวิตได้ เช่น การรักษาพยาบาล การเกษียณอายุ และการดูแลเด็ก
ในปี 2024 เราได้มอบโอกาสจากการให้เงินทุนตามดุลยพินิจมากกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกิดจากแนวคิดเหล่านี้ เงินช่วยเหลือเหล่านี้รวมถึงเงินจำนวนกว่า 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐในโครงการ WANTO และเงินช่วยเหลืออื่นๆ ที่ดำเนินการโดย Fresh Start
นอกจากนี้ การลงทุนอื่นๆ ในโครงการเพื่องานที่ดีและโครงสร้างพื้นฐานด้านโอกาส มีดังนี้
เงินช่วยเหลือเกือบ 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการปรับปรุงคุณภาพงานในภาคส่วนที่สำคัญ แต่มักถูกละเลย เช่น งานด้านการดูแล การต้อนรับ และงานเกี่ยวกับภัยพิบัติ
40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับโครงการนอกเวลาเรียนเพื่อเตรียมพร้อมและช่วยให้คนหนุ่มสาวเข้าถึงงานที่ดี โดยให้เงินสนับสนุนค่าเดินทางและค่าครองชีพอื่นๆ
เกือบ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือแรงงานในชนบทให้ได้รับงานที่ดี โดยมอบเงินช่วยเหลืออย่างน้อย 15 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง รวมถึงช่วยให้แรงงานเข้าถึงบริการดูแลเด็กและการขนส่งเพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าถึงงานที่ดีในพื้นที่ชนบท
เงินช่วยเหลือในโครงการ YouthBuild เกือบ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อฝึกอบรมเยาวชนให้ได้รับงานที่ดีผ่านการจัดทำโครงการบ้านจัดสรรราคาจับต้องได้ โดยมีข้อกำหนดใหม่ให้ผู้รับทุนทำงานร่วมกับนายจ้างหลังจบโครงการเพื่อจัดหางานโดยสอดคล้องกับหลักการเพื่องานที่ดี
เงินมากกว่า 330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุพึ่งพาตนเองได้ผ่านงานที่ได้รับค่าตอบแทนในองค์กรของชุมชน โดยมีข้อกำหนดใหม่ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มตำแหน่งงานที่ดีสำหรับแรงงานสูงอายุ
โครงการต่างๆ เหล่านี้มีหลายโครงการที่ไม่ใช่โครงการใหม่ ซึ่งดำเนินมาหลายศตวรรษแล้ว โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับการสร้างความแตกต่าง กล่าวคือ การจัดฝึกอบรมและสร้างโอกาสในการทำงานที่เหมาะกับแรงงานและครอบครัวของพวกเขา
คิมเบอร์ลีรับรู้ได้ถึงความแตกต่างนั้น ขอขอบคุณโครงการ WANTO ที่ทำให้เธอไม่ต้องทำงานเพียงเพื่อความอยู่รอดไปวันๆ ตอนนี้เธอได้รับค่าตอบแทนที่ดีและสวัสดิการมากมายขณะเดียวกันก็ได้ทำงานที่เธอรัก อีกทั้งยังมีเวลาเหลือเฟือในการวางแผนทำสิ่งต่างๆ เช่น ทริปเดินทางด้วยรถบ้านกับครอบครัวเพื่อไปแบริโซน่า (Bearizona) ซึ่งเป็นสวนสัตว์ซาฟารีแบบไดรฟ์ทรู
"เหมือนกับว่างานประจำของฉันคือการใช้ชีวิต และการทำงานจริงๆ เป็นแค่พาร์ทไทม์เท่านั้น" เธอกล่าว "และก็มีการขึ้นเงินเดือนอัตโนมัติให้ด้วย"
นิค บีเดิล เป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายของโครงการริเริ่มเพื่องานที่ดี