การพลัดตกยังคงเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการเสียชีวิตในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานพบว่า ในปี 2565 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุการลื่นไถล การสะดุดล้ม และการพลัดตกจำนวน 865 ราย ที่น่าเศร้าคือ 700 รายเสียชีวิตจากการพลัดตกจากที่สูง เช่น บันไดหรือหลังคา ลงไปยังชั้นล่าง นั่นหมายความว่า โดยเฉลี่ยแล้วในทุกๆ วันจะมีพนักงานเกือบสองคนเสียชีวิตจากการพลัดตกลงไปยังชั้นล่าง สถิติที่น่าตกใจเหล่านี้ถือเป็นข้อกังวลที่สำคัญสำหรับเราที่สำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ อีกทั้งสถิติดังกล่าวยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินการของทุกๆ ธุรกิจและในอุตสาหกรรม
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เช่น โครงการป้องกันการพลัดตกในการก่อสร้างของหน่วยงานด้านความปลอดภัยแห่งชาติ สามารถสร้างความตระหนักรู้ถึงอันตรายจากการพลัดตก ตลอดจนช่วยเสริมสร้างแนวทางการทำงานที่ปลอดภัยซึ่งช่วยป้องกันการบาดเจ็บและการเสียชีวิต
นายจ้างต่างมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบว่ามาตรการด้านความปลอดภัยต่างๆ ได้รับการนำไปปฏิบัติ แม้ว่าสถานการณ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี แต่เราสามารถปฏิบัติตามสามขั้นตอนง่ายๆ ด้านล่างนี้เพื่อป้องกันเหตุโศกนาฏกรรมที่ไม่ควรเกิดดังกล่าวได้
วางแผนล่วงหน้าเพื่อให้ทำงานเสร็จสิ้นอย่างปลอดภัย นายจ้างและหัวหน้างานที่ดูแลการทำงานบนที่สูงควรวางแผนโครงการในเชิงรุกและบูรณาการความปลอดภัยตั้งแต่ต้น ตัวอย่างเช่น ถ้าพื้นผิวลื่นหรือมีลมแรง จำเป็นต้องทำงานในขณะนั้นหรือไม่ และสามารถทำสิ่งใดได้บ้างเพื่อลดอันตราย
ตรวจสอบสถานที่ทำงานเชิงรุกเพื่อระบุอันตรายและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรกตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนจะช่วยให้ทีมปรับตัวและจัดลำดับความสำคัญใหม่เกี่ยวกับความพยายามและทรัพยากรตามที่จำเป็น
จัดหาอุปกรณ์ที่เหมาะสม ผู้ปฏิบัติงานที่เสี่ยงต่อการพลัดตกจะต้องมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับสภาพการทำงานของตน ควรจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันการพลัดตกที่ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน เช่น ระบบยึดเกี่ยวการตก ราวกันตก นั่งร้าน ระบบยับยั้งการตกส่วนบุคคล (PFAS) และเข็มขัดนิรภัยที่ติดตั้งอย่างถูกต้อง
โปรดจำไว้ว่าอุปกรณ์ป้องกันที่ออกแบบมาสำหรับผู้ชายอาจไม่พอดีหรือให้การป้องกันที่เหมาะสมสำหรับผู้หญิง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานก่อสร้างทุกเพศและทุกขนาดตัวได้รับการติดตั้งชุดสวมนิรภัยอย่างเหมาะสม
ฝึกอบรมพนักงานทุกคน พนักงานทุกคนจะต้องได้รับการฝึกอบรมให้ใช้อุปกรณ์นิรภัยเพื่อให้ทำงานได้อย่างปลอดภัย การฝึกอบรมควรครอบคลุมถึงแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัย ขั้นตอนปฏิบัติฉุกเฉินและการใช้อุปกรณ์อย่างถูกต้องในภาษาที่พนักงานเข้าใจ ลองนึกภาพสถานการณ์ที่พนักงานได้ยินผู้จัดการไซต์ที่ให้การฝึกอบรมพูดว่า "ต้องแน่ใจว่ารอบตัวไม่ลื่นไหล" เมื่อทำงานบนที่สูง ทีนี้ลองจินตนาการว่าพนักงานชาวภาคใต้เข้าใจความหมายเป็น "ต้องทำให้รอบตัวไม่มีอะไร" และนำอุปกรณ์นิรภัยออก แทนที่จะต้องแน่ใจว่าอุปกรณ์ยึดรอบตัวพวกเขาแน่นจนสามารถป้องกันไม่ให้พวกเขาไหลตกลงไปข้างล่าง การสื่อสารที่ชัดเจนให้พนักงานเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการรับรองว่าพนักงานจะสามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ควรจัดเตรียมแผนอยู่เสมอเพื่อให้การช่วยเหลือพนักงานได้อย่างทันท่วงทีในกรณีที่เกิดการพลัดตก หรือตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานรู้วิธีช่วยเหลือตนเอง
เราต้องทำมากขึ้นเพื่อปกป้องพนักงานเหล่านี้ นายจ้างและหัวหน้างานควรทำเป็นแบบอย่างในเรื่องความปลอดภัยของพนักงาน ควรส่งเสริมและกระตุ้นให้การปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยกลายเป็นค่านิยมหลักผ่านกิจกรรมด้านความปลอดภัยต่างๆ ซึ่งส่งเสริมวัฒนธรรมที่คำนึงถึงความปลอดภัย และให้รางวัลพนักงานที่ช่วยทำให้สถานที่ทำงานของตนปลอดภัยยิ่งขึ้น
มาร่วมป้องกันอันตรายจากการพลัดตก และย้ำเตือนให้ทุกคนให้ความสำคัญกับระบบการจัดการความปลอดภัยเป็นอันดับแรกกัน การกระทำที่เรียบง่ายแต่สำคัญเหล่านี้สามารถสร้างผลกระทบที่สำคัญในการช่วยชีวิตได้
แสดงจุดยืนของคุณเองหรือเข้าร่วมการสนทนาออนไลน์โดยติดแฮชแท็ก #StandDown4Safety ติดตาม OSHA บน Twitter/X ได้ที่@OSHA_DOL และ LinkedIn เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาพนักงานให้ปลอดภัยในการทำงาน
โฆเซ เอร์เรรา เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและการให้คำแนะนำภาษาสเปนของ OSHA