ร่วมฉลองวันครบรอบพระราชบัญญัติการฟื้นฟูสมรรถภาพด้วยการระบุอัตลักษณ์ของตนเอง

ภาพถ่ายครึ่งตัวของผู้หญิงผมยาวสีดำสวมชุดสูทกำลังยิ้มอยู่หน้าธงชาติสหรัฐฯ และธงของกระทรวงแรงงาน
Anupa Geevarghese 

วันนี้ เราได้ร่วมฉลองวันครบรอบการออกพระราชบัญญัติการฟื้นฟูสมรรถภาพ ค.ศ. 1973 ซึ่งถือเป็นหลักชัยสำคัญในการรับรองว่าผู้พิการจะสามารถเข้าถึงงานดีๆ ได้ มาตรา 503 ของ พ.ร.บ. การฟื้นฟูสมรรถภาพกำหนดว่าห้ามมิให้ผู้รับเหมาของรัฐบาลกลางและผู้รับเหมาช่วงเลือกปฏิบัติต่อผู้สมัครทุพพลภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและพนักงานที่มีความทุพพลภาพ พร้อมทั้งกำหนดให้ผู้รับเหมาต้องดำเนินการยืนยันสิทธิประโยชน์ (Affirmative Action) เพื่อจ้างบุคคลเหล่านี้ สำนักงานโครงการปฏิบัติตามสัญญาของรัฐบาลกลาง (Office of Federal Contract Compliance Programs หรือ OFCCP) แห่งกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ได้ปฏิบัติตามมาตรา 503 ของ พ.ร.บ. การฟื้นฟูสมรรถภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนจะได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน

ในฐานะอดีตพนักงานของผู้รับเหมาของรัฐบาลกลางและในฐานะผู้พิการ ดิฉันสามารถยืนยันถึงความสำคัญของมาตรา 503 สำหรับบุคคลผู้พิการได้ สำหรับดิฉันแล้ว กฎหมายข้อนี้ช่วยให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานที่ทำงานซึ่งจำเป็นต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของดิฉัน แต่เรื่องน่าเศร้าก็คือ ผู้พิการยังคงต้องเผชิญกับอุปสรรคในการเข้าและอยู่ในตลาดแรงงาน 

เพื่อให้คำมั่นสัญญาด้านโอกาสในการจ้างงานที่เท่าเทียมกันเกิดขึ้นจริงอย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น มาตรา 503 จึงกำหนดให้ผู้รับเหมาต้องดำเนินการเผยแพร่และสรรหาบุคลากรซึ่งมีความทุพพลภาพด้วย นอกจากนี้ มาตรา 503 ยังกำหนดเป้าหมายว่าจะจ้างแรงงานที่เป็นบุคคลทุพพลภาพ 7% ของแรงงานทั้งหมด และกำหนดให้ผู้รับเหมาดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาใดๆ ที่ผู้พิการระบุ โดยในการวัดความก้าวหน้า ผู้รับเหมาจะต้องเชิญชวนพนักงานอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้พวกเขาระบุอัตลักษณ์โดยสมัครใจว่าเป็นบุคคลผู้พิการ

ในเดือนเมษายน 2023 ทาง OFCCP ได้อัปเดตแบบฟอร์มการระบุความทุพพลภาพของตนเองโดยสมัครใจ เพื่อให้ครอบคลุมลักษณะความทุพพลภาพได้กว้างขึ้นและอัปเดตภาษาที่ผู้พิการต้องการ ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากแบบฟอร์มนี้เป็นความลับ และยังใช้เพื่อประเมินประสิทธิภาพของการประชาสัมพันธ์รวมถึงการสรรหาบุคลากรของผู้รับเหมาอีกด้วย

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีเป้าหมายในการสร้างสถานที่ทำงานที่เข้าถึงได้และเท่าเทียมกันมากขึ้นสำหรับทุกคน ซึ่งรวมถึงพนักงานที่มีความทุพพลภาพด้วย เนื่องจากแรงงานจำนวน 1 ใน 5 ในอเมริกาได้รับการว่าจ้างจากผู้รับเหมาของรัฐบาลกลางหรือผู้รับเหมาช่วง มาตรา 503 จึงมีผลกระทบอย่างมากต่อภาพรวมการจ้างงานสำหรับบุคคลทุพพลภาพ ในฐานะผู้หญิงพิการที่ภาคภูมิใจในตนเอง ฉันเชื่อว่าการระบุอัตลักษณ์ของตนเองเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยนำประสบการณ์ของพนักงานคนหนึ่งมาใช้เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น ทั้งสำหรับพนักงานคนนั้นและเพื่อนร่วมงานของพวกเขา

Anupa Geevarghese เป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายของสำนักงานโปรแกรมการปฏิบัติตามสัญญาของรัฐบาลกลาง กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ